วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คนดีๆที่มีอยู่บนโลกนี้ก็มีนะ

เป็นเรื่องของผมที่ประสบเจอการเหตุการที่มีทั้งเสียใจและดี ใจในเวลาใกล้ๆกันจบลงด้วยความประทับใจ
 เรื่องมีอยุูว่าวันนี้ผมกับแฟน(ซาเปา)และน้องอ๊าฟไปตลาดเย็นประจำทุกวันจันทร์เพือซื้อของมาทำซุกกี้กันผมกับน้องอ๊าฟรออยู่ที่รถยนต์ส่วนซาเปาไปซื้อเพียงคนเดี๋ยวซื้อเสร็จก็กลับบ้านกันตามปกติพอถึงบ้านก็อาบน้ำทำธุระกันเสร็จแล้วก็เตรียมจะกินซกกี้แต่อยู่ๆซาเปาก็บอกว่ากระเป๋าหาย ฮะ งานเขาหละสิ หากันช่วยกันหาไม่เจอครับ ในกระเป๋ามีเงินอยู่ 100บาทและบัตรต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ ที่สำคัญคือมีทองคำ 2สลิงอยู่ด้วย ซาเปาก็บอกว่าลืมใว้ที่ร้านกาแฟแน่เลยเพราะซื้อกาแฟเป็นร้านสุดท้าย ในใจผมคิดว่าคงไม่ได้คือแล้วหละเพราะมีทองอยู่ด้วยถ้าไม่มีทองก็คงได้คืออยู่ แต่ยังไงก็ต้องไปตามหาครับ แต่ตอนนี้ก็มืดแล้ว เลยถามซาเปาว่าร้านกาแฟตรงไหนพอดีแม่ขายของตลาดนัดบ่อยเลยรู้จักคนขายเลยพากันไปหากันที่บ้านคนขายกาแฟ คนแรกไม่ใช่ครับแต่ก็ยังดีที่เขาบอกมาว่ามีอีกคนที่ขายเลยไปตามหากันต่อโดยมีแม่ซาเปาพ่อผมและน้องอ๊าฟไปกันหมดเลยไปหากำนันเพื่อให้เขาพาไปบ้านคนขายกาแฟคนนี้แต่กำนันไม่อยู่อยู่แต่เมียนเขาโชดดีที่เมียเขารู้จักบ้านคนขายกาแฟเลยบอกทางให้ ก็เลยไปกันไปถึงผมถึงกับใจชื้นขึ้นเลยเมื่อมีคนโบรกมือให้เขาไปในบ้านผมและครอบครัวก็เดินกันเขาไปยังไม่ทันพูดอะไรเขาบอกว่ามาเอากระเป๋าใช่ไหม ผมรู้สึกดีใจและรู้ทันทีว่าพวกเราเจอคนดีเขาแล้ว เขาบอกยังคิดอยู่ว่าจะเอากระเป๋าไปคืนให้เจ้าของยังไง เขาว่าจะเอาไปประกาศออกเสียงตามสายพรุ่งนี้ ที่แปลกอย่างมากคือเขาก็รู้ว่ามีทองคำอยู่ในกระเป๋าแต่เขาก็ต้องการที่จะคืนโดยไม่มีท่าทีที่จะยากได้ของเลย  นี้หละครับผมของยกย่องพวกเขาสองผัวเมียที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรเป็นแค่คนขายกาแฟตามตลาดนัด แต่คุณค่าของเขาสองคนนี้มีมากกว่าคนรวยบ้างคนสะอีก นี้หละครับเขาเรียกว่าเงินซื้อไม่ได้คนดีไม่ต้องใช้เงิน ใช้ใจครับ

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

ภูมิใจบ้านเกิด

ชัยนาท

ชัยนาทเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบนมีแม่น้ำหลายสายไหลพาดผ่านทำให้เมืองนี้มี
ความอุดมสมบูรณ์มาก อีกทั้งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย จึงมีสถาน
ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมากปัจจุบันชัยนาทมีชื่อเสียงและมีสินค้าด้านหัตถกรรม การจักสาน การปั้น การทอ การทำเครื่องเบญจรงค์ ที่มีฝีมือประณีต รูปแบบทันสมัย ราคาย่อมเยา มีตลาดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยฝีมือของชาวบ้านกลุ่มต่าง ๆ อีกด้วย
ชัยนาท แปลตามศัพท์มีความหมายว่าชัยชนะที่มีเสียงบันลือ เป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง สร้างใน
สมัยพญาเลอไทแห่งกรุงสุโขทัย ระหว่าง พ.ศ. 1860-1879 ตั้งขึ้นหลังเมืองพันธุมวดี (สุพรรณบุรี) โดยเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงสุโขทัย และมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้ตัวเมืองเดิมอยู่บริเวณ
ฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองแพรกศรีราชา ใต้ปากลำน้ำเก่า จึงได้ชื่อว่าเมืองแพรก หรือเมืองสรรค์ เมื่อกรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง เมืองแพรกกลายเป็นเมืองหน้าด่านทางตอนเหนือของ
กรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้เกิดชุมชนใหม่ไม่ไกลจากเมืองสรรค์ มีเจ้าสามพระยา (ซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา) เป็นผู้ครองเมือง เมืองที่เกิดขึ้นใหม่นี้เป็นเมืองใหญ่ มีชื่อว่าชัยนาท ที่ได้ชื่อเช่นนี้ก็เพราะชัยนาทเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เคยใช้เป็นที่ตั้งทัพรับศึกพม่าหลายครั้ง และมีชัยทุกครั้งไปในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายตัวเมืองจาก
บริเวณแหลมยางมาตั้งตรงฝั่งซ้ายแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเมืองสรรค์นั้นเสื่อมลงเรื่อยๆ เพราะผู้คนส่วนใหญ่อพยพไปอยู่ที่ชัยนาท จนในที่สุดก็กลายเป็นเพียงอำเภอหนึ่งของชัยนาทจังหวัดชัยนาทมีเนื้อที่ประมาณ 1,543,591 ไร่ หรือประมาณ 2,469.74 ตารางกิโลเมตร หรือเท่ากับร้อยละ 15.5 ของพื้นที่
ภาคกลางตอนบน พื้นที่โดยรวมของจังหวัดเป็นพื้นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน 
แม่น้ำน้อย ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกอำเภอจังหวัดชัยนาทแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอหันคา อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรคบุรี อำเภอสรรพยา อำเภอวัดสิงห์ อำเภอหนองมะโมง และอำเภอเนินขาม

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บทความดีๆสำหรับคนสู้ชีวิตครับ


ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งในอเมริกา เคยมีเงินเดือนเกือบ 2 ล้านบาทต่อเดือน..แต่เมื่อเจอกับวิกฤติเศษฐกิจในอเมริกา เขาถึงกับตกงาน ไม่มีรายได้ซักกะบาท!
เขามีลูกวัยเรียน2คนและเมียที่เป็นแม่บ้านต้องเลี้ยงอีกคน เขาต้องมีเงินสำหรับใช้จ่ายเยอะมากในแต่ละเดือน จนน่าวิตกว่า เขาจะหางานที่สามารถจุนเจือครบอครัวได้จริงหรือ?
แต่ผู้บริหารคนนี้ เขามั่นใจ100%ว่า หากเขาเป็นคนขยัน เป้นคนอดทน มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ เขาไม่มีวันตกงานแน่!!
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ออกจากงาน เขาตะเวนสมัครงานไปด้วย
หางานตั้งแต่เช้ามืดยันมืดค่ำ 3เดือนผ่านไป.."เขาก็ยังคงตกงาน"
เพราะทุกบริษัทก็เป็นแบบเขา คือย่ำแย่ ตกต่ำ มีคนขายไม่มีคนซื้อ เศษฐกิจบัดซบสุดๆ
เข้าเดือนที่ 4 เงินเขาหมด เขาจึงตัดสินใจขายรถ และเอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
เขาก็ยังออกจากบ้านทุกเช้า เผื่อไปฟังคำปฏิเสธทุกวัน ตั้งแต่เช้ามืด ยังมืดค่ำ..จนเมียถามว่า เขาจะไปทำไม ให้เสียเวลา เสียเงิน เสียเกียรติ และ เสียศักดิ์ศรี..!!!
เขาหันมาบอกเมียจ๋าว่า..
"ถ้าเราไม่ไป เราถูกปฏิเสธ 100% ชีวิตล้มแหลวแน่นอน 100%แต่ถ้าเราออกไป เรายังมีโอกาศประสบความสำเร็จ 10% ถ้ายังสู้ได้ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาด!!"
เข้าสู่เดือนที่ 6 เงินจากการขายรถ หมดอีกครั้ง
เขาเอาบ้านไปจำนอง ได้เงินมาไม่ถึง1/4ของราคาบ้าน และเขาก็ออกสมัครงานต่อ
เข้าสู่เดือนที่10 เงินจากการขายบ้านหมด....
เขาต้องให้ลูกออกจากโรงเรียน เผื่อลดค่าใช้จ่าย เขาต้องรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าในบ้าน ไปขาย จนหมดตัว เขาแทบไม่เหลืออะไรแล้ว...
เขาเดินสมัครงาน..จนรองเท้าสึกและพื้นรองเท้าขาด จนเขาต้องเดินลากขาไปเผื่อไม่ให้พิ้นรองเท้าเปิด เป็นที่น่าสมเพศของผู้คนรอบข้างนัก วันหนึ่ง เขาไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าวเที่ยง เขาต้องดื่มน้ำก๊อกกลั้วท้องไปวันๆ และเขาก็เดินไปต่อ กระทั่งเขารู้สึกเจ็บแปร๊บที่เท้าอย่างสุดๆ เขาตกใจและยกเท้าขึ้นมาดู
ลวดงอๆทิ่มเข้าไปที่นิ้วเท้าของเขาลึกไปประมาณ 2 นิ้ว เขารีบดึงออกมา
และทันใดนั้น ปรี๊ด! เลือดพุ่งออกมาเต็มเท้า
เขาทรุดตัวลงฟุตบาท และร้องไห้ออกมา ไม่ไหวแล้ว...
ชีวิตกู...ทำไมมันบัดซบอย่างงี้
พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่ กูไม่ขำ พระเจ้าจะทดสอบกูไปถึงไหน!
เขาเป็นคนขยัน ตั้งมั่น ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้มาตลอด
สิ่งที่เขาควรได้รับ คือ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ไม่ใช่ความยากจน ลำบาก อดอยาก แร้งแค้นแบบนี้
เขาด่าพระเจ้าลั่นถนน!! ไม่ไหวแล้ว!....
..........
เมื่ออารมณ์เย็นขึ้น เขาเอามือหนึ่งกดแผลไว้ให้เลือดหยุด และเอาอีกมือหนึ่ง หยิบลวดอันนั้นมาดู..และด้วยความที่เป็นนักบริหาร เขาจึงคิดจะหาประโยช์นจากมันให้ได้..
เขาคิดใจใน...."มึงตำตีนกูได้ กูก็ต้องเอามึงไปใช้งานได้!"
......กูไม่ยอมให้มึงทำกูข้างเดียวหรอก!!
เขานั่งคิดอยู่พักใหญ่ จนเลือดหยุด เขาจึงเดินไปหาเจ้าของโรงงานคนหนึ่งที่เป็นคนรู้จักคุ้นเคยกันมานาน พร้อมกับถือลวดไปด้วย แล้วเสนอไอเดียจากไอ้ลวดนรกนั่น เจ้าของโรงงานสงสาร จึงยอมรับคำขอร้องของเขา....
หลายเดือนผ่านไป ชายคนนี้ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี โด่งดังไปทั่วโลก!.....โดยการนำลวดที่ตำตีนเขา
.....มาเปลี่ยนเป็น.....
**ลวดหนีบกระดาษ!!!**
มีประเทศไหนในโลกไหมครับ ที่ไม่มี "ลวดหนีบกระดาษ"
ชายผู้ตกอับจนถึงขีดสุด กลับมาร่ำรวยและยิ่งใหญ่ที่สุดได้
เขาจึงสรุปได้ว่า..
ถ้ามีความพยายาม อดทน มุ่งมั่น และไม่ย่อท้อ
สิ่งที่พระเจ้าจะประทานให้คุณ มีแต่ความสำเร็จเท่านั้น.. แต่..ที่สำคัญคือ
....มึงสู้ จริงหรือเปล่า!!!!!....

เรื่องน่าคิด

วันหนึ่งไอน์สไตน์ถามนักเรียนในห้องเรียนว่า
“มีคนซ่อมปล่องไฟสองคน กำลังซ่อมปล่องไฟเก่า
พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ ปรากฏว่าคนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนหนึ่งตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่า
ขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน”
นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า
“ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ”

ไอน์สไตน์พูดว่า “งั้นหรือ?” ลองคิดดูให้ดีนะ
คนที่ตัวสะอาดเห็นอีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน
เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆ เลย
ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่า
ตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน

ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่
นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“อ๋อ! ผมรู้แล้ว พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนตัวสกปรก
ก็นึกว่าตัวเองตัวสกปรกแน่ แต่คนที่ตัวสกปรกเห็นอีกคนตัวสะอาด
ก็คิดว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย ถูกไหมครับ”
ไอน์สไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับคำนี้
ไอน์สไตน์จึงค่อยๆพูดขึ้น อย่างมีหลักการและเหตุผล
“คำตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งสะอาด อีกคนหนึ่งจะสกปรก
เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนำจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะ
และหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้...”
 

“จงออกจากพันธนาการของความเคยชิน
หลบเลี่ยงจากกับดักทางความคิด
หลีกหนีจากสิ่งที่ทำให้เราหลงจากความถูกต้อง
แล้วคุณจะพบกับสิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริง”

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วิถีชีวิตจากพนักงานเงินเดือนเปลียนมาเป็นชีวิตแบบเกษตรพอเพียงที่มีความสุขแบบตามใจตัวเองไม่ตามใจใคร INDY

เริ่มต้น ด้วยการเปลียนวิธีคิดของตัวเองหลังจากเป็นพนักงานประจำมานาน กาลเวลาทำให้คนเปลียนความคิดขึ้น ผมมีครอบครัวที่ดีมีลูกชายหนึ่งคนและแม่ของลูกอีกหนึ่งคน ความคิดเปลียนเกิดขึ้นเมื่อลูกผมแรกเกิดอยากที่จะมีเวลาอยากที่จะมีความสุขมากกว่านี้ อื่มต้องบอกก่อนเลยว่างานประจำของผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดครับ 4 ปีทำไปได้ไงแฟนผมทำงานมา 6-7ปีมั้งจำไม่ได้ประมาณนี้ก็หยุดงานได้แต่โดนหักตังค์ ระบบเถ้าแก่ครับไม่ขอพูดถึงละกัน ก้อเลยทำให้ผมและแฟนตัดสินใจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกและเริ่มต้นกับการทำงานในรูปแบบใหม่ที่ไม่มีความรู้ในด้านปฏิบัติเกษตรกรและปศุสัตว์ในรูปแบบเกษตรพอเพียงมีแต่ทฤษฏีจากโลกอินเตอร์เน็ต "เอาครับ"ใจได้แต่ลงมือทำแล้วจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที นี้หละครับจุดเปลียนและจุดเริ่มต้นของผมกับไร่จิณณวัฒน์ฟาร์ม  



ไม่เริ่มต้นใหม่ก็ไม่เจอจุดเปลียน